
12
Sep
ญี่ปุ่น
Ginzan Onsen พักใจในหมู่บ้านออนเซ็นสุดโรแมนติก
หนีเมืองใหญ่ ไปหลงเสน่ห์ Ginzan Onsen หมู่บ้านออนเซ็นเล็ก ๆ กลางหุบเขาเมืองยามากาตะ ที่สวยงามราวภาพฝัน ด้วยอาคารเรียวกังไม้สไตล์โบราณเรียงรายสองฝั่งลำธาร เมื่อถึงฤดูหนาวหิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่ว พร้อมแสงโคมไฟส้มอุ่นส่องสะท้อนกับหิมะ กลายเป็นบรรยากาศโรแมนติก
Ginzan Onsen ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกของเมือง Obanazawa จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) มีชื่อแปลตรงตัวว่า “บ่อน้ำพุร้อนเงิน” เพราะพื้นที่แห่งนี้เคยรุ่งเรืองจากการทำเหมืองเงินในสมัยเอโดะ ราวคริสต์ศตวรรษที่ 17 หลังจากเหมืองปิดตัวลง ชุมชนรอบ ๆ จึงปรับเปลี่ยนมาใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่ นั่นคือบ่อน้ำพุร้อน (Onsen) จนกลายเป็นเมืองออนเซ็นที่งดงามและเต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์

สิ่งที่ทำให้ Ginzan Onsen แตกต่างจากเมืองออนเซ็นอื่น ๆ คืออาคารโรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม (Ryokan) ที่เรียงรายอยู่สองฝั่งลำธารใจกลางเมือง ตัวอาคารส่วนใหญ่สร้างขึ้นราวสมัยไทโชถึงต้นโชวะ (ค.ศ. 1912–1940s) มีการออกแบบผสมผสานไม้ญี่ปุ่นแท้กับอิทธิพลสถาปัตยกรรมตะวันตกยุคแรก ทำให้บรรยากาศของถนนสายหลักราวกับย้อนเวลากลับไปอยู่ในญี่ปุ่นร้อยปีก่อน

หลายโรงแรมใน Ginzan Onsen ถูกบูรณะอย่างพิถีพิถันเพื่อคงความเป็นดั้งเดิม ทั้งโครงสร้างไม้ ซุ้มระเบียง และโคมไฟประดับหน้าต่าง ปัจจุบันพื้นที่นี้ถูกกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์ทางทัศนียภาพ โดยรัฐบาลท้องถิ่นมีข้อกำหนดเข้มงวด เช่น การใช้วัสดุไม้และกระจกในรูปแบบดั้งเดิม การควบคุมป้ายร้านค้าและไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อไม่ให้เสียเสน่ห์แบบญี่ปุ่นโบราณ

Ginzan Onsen ขึ้นชื่อที่สุดในฤดูหนาว เมื่อหิมะขาวโพลนปกคลุมหลังคาและถนน บวกกับแสงไฟจากโคมแก๊สที่ส่องสะท้อนกับหิมะ กลายเป็นภาพโรแมนติกดั่งฉากในภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม ฤดูร้อนก็มีเสน่ห์ด้วยความเขียวชอุ่มและสายลมเย็นจากภูเขา ฤดูใบไม้ผลิมีดอกซากุระบานริมลำธาร ส่วนฤดูใบไม้ร่วงก็โดดเด่นด้วยใบไม้เปลี่ยนสีตัดกับสถาปัตยกรรมไม้

น้ำพุร้อนของ Ginzan Onsen จัดเป็นน้ำพุร้อนประเภท sulfate และ chloride มีอุณหภูมิเฉลี่ยราว 55–60 องศาเซลเซียส เชื่อกันว่าช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ และโรคผิวหนัง ผู้มาเยือนสามารถเลือกอาบน้ำได้ทั้งในโรงแรมเรียวกังที่พักหรือออนเซ็นสาธารณะ เช่น “Shirogane-yu” ที่มีดีไซน์ร่วมสมัยโดยสถาปนิกชื่อดัง Kuma Kengo

Ginzan Onsen ยังมีชื่อเสียงเพราะถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจให้ฉากในการ์ตูนและภาพยนตร์ญี่ปุ่นหลายเรื่อง โดยเฉพาะภาพบรรยากาศกลางคืนที่ถูกเปรียบกับโลกแฟนตาซี เช่น โรงแรมในเรื่อง Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิ แม้จะไม่มีการยืนยันตรง ๆ แต่หลายแฟนเชื่อว่าที่นี่คือแรงบันดาลใจสำคัญ

การเดินทางมายัง Ginzan Onsen ต้องใช้ความตั้งใจ เพราะไม่มีรถไฟตรง ต้องนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวมาลงที่โออิชิดะ (Ōishida Station) แล้วต่อรถบัสประมาณ 40 นาที การเข้าถึงที่ไม่ง่ายนักนี้เองทำให้เมืองยังคงความสงบ ไม่ถูกรบกวนด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลเหมือนเมืองออนเซ็นชื่อดังอื่น ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้แสวงหาประสบการณ์ออนเซ็นที่แท้จริง

Ginzan Onsen ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายท่องเที่ยว แต่เป็นภาพสะท้อนของการเปลี่ยนผ่านสังคมญี่ปุ่นจากยุคเหมืองแร่สู่ยุคการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และเป็นตัวอย่างการอนุรักษ์ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่ประสบความสำเร็จในระดับประเทศ ใครก็ตามที่มาเยือนจะไม่เพียงได้สัมผัสบรรยากาศแช่ออนเซ็น แต่ยังได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตที่ยังคงสืบทอดมากว่าศตวรรษ