ซูซูกิโนะ สวรรค์นักชิม กินเพลินยันดึก

ซุซูกิโนะ (Susukino) คือย่านบันเทิงที่คึกคักที่สุดของเมืองซัปโปโร เกาะฮอกไกโด เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ คลับ และร้านขนมมากมาย มีไฟนีออนสว่างไสวตลอดทั้งคืน ถือเป็นแหล่งรวมสีสันยามค่ำคืนอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น คล้ายชินจูกุในโตเกียวแต่มีเสน่ห์แบบฮอกไกโด

ในตอนกลางวัน ซุซูกิโนะดูเป็นย่านร้านอาหารและคาเฟ่เรียงราย แต่พอตกค่ำ ทุกมุมจะเปลี่ยนเป็นภาพของไฟนีออนหลากสี ตัดกับอากาศเย็นแบบฮอกไกโด ชวนให้เดินเล่นและถ่ายรูป โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่หิมะโปรยลงมาบนป้ายไฟ กลายเป็นภาพที่ทั้งอบอุ่นและโรแมนติก

หนึ่งในอาหารซิกเนเจอร์ของซุซูกิโนะคือ “ซัปโปโรราเมน” ที่โด่งดังด้วยซุปมิโสะเข้มข้นใส่เนยและข้าวโพดหวาน เมนูนี้เหมาะกับอากาศหนาวมากๆ ร้านดังที่แนะนำ เช่น Sumire หรือ Keyaki ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ด้วยรสซุปหอมมัน เส้นเหนียวนุ่ม และข้าวโพดหวานจากฮอกไกโดที่อร่อยไม่เหมือนที่อื่น

ฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องปูทะเล และในซุซูกิโนะก็มีร้านขาปูมากมาย ทั้งปูขน ปูทาราบะ และปูซูไว เสิร์ฟทั้งแบบนึ่ง ย่าง หรือทำซูชิ ร้านยอดนิยมคือ Kani Honke ที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากทะเลฮอกไกโดทุกวัน ขาปูเนื้อแน่นหวาน กินกับซอสพอนซึหรือเนยย่างหอมๆ คือฟินขั้นสุด

หลังมื้อเย็น หลายคนจะต่อกันที่อิซากายะ ร้านสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับนั่งดื่มและสั่งอาหารทานเล่น เช่น ไก่ย่างเสียบไม้ (ยากิโทริ) ปลาเสียบไม้ย่าง หรือสลัดสไตล์ญี่ปุ่น อิซากายะในซุซูกิโนะมีทั้งแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย บรรยากาศอบอุ่นเหมาะกับการนั่งคุยยาวๆ กับเพื่อน

ใครชอบซาชิมิ ซุซูกิโนะถือเป็นสวรรค์ เพราะมีร้านที่เสิร์ฟปลาสดจากท่าเรือโอตารุและฮาโกดาเตะ ทั้งแซลมอน หอยโฮตาเตะ และอูนิ (ไข่หอยเม่น) ร้านแนะนำ เช่น Nemuro Hanamaru หรือ Sushi Zanmai ที่คัดวัตถุดิบคุณภาพสูง ให้รสชาติหวานสดเหมือนเพิ่งจับจากทะเล

อีกหนึ่งเมนูท้องถิ่นที่ต้องลองคือ “เจงกิสข่าน” หมูย่างหรือเนื้อแกะย่างบนกระทะทรงโดม ราดด้วยซอสหวานเค็มสูตรพิเศษ ร้านดังอย่าง Daruma ในซุซูกิโนะเป็นตำนานที่เปิดมานานกว่า 60 ปี กลิ่นเนื้อย่างหอมๆ ลอยมาแต่ไกล เรียกน้ำย่อยได้ทันที

ทุกเดือนกุมภาพันธ์ ย่านนี้จะกลายเป็นหนึ่งในพื้นที่จัดงาน Sapporo Snow Festival มีการประดับไฟน้ำแข็ง แกะสลักรูปปั้นหิมะ และเปิดตลาดอาหารกลางแจ้ง ทำให้ซุซูกิโนะเต็มไปด้วยทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น

นอกจากอาหาร ยังมีร้านสินค้าท้องถิ่น เช่น ช็อกโกแลต Royce, Shiroi Koibito, และของฝากลายหมีฮอกไกโด ร้านเล็กๆ ในตรอกยังมีขายของแฮนด์เมดและเครื่องดื่มพื้นเมืองที่หาซื้อที่อื่นไม่ได้

แม้จะเป็นย่านกลางคืน แต่ซุซูกิโนะยังคงความปลอดภัยแบบญี่ปุ่น เดินเที่ยวได้สบาย มีสถานีรถไฟใต้ดิน Susukino Station เชื่อมตรงจากซัปโปโร และสามารถเดินจากย่าน Odori ได้เพียง 10–15 นาที

ควรเผื่อเวลามาเที่ยวตอนเย็นถึงค่ำ เพื่อสัมผัสไฟนีออนและลิ้มรสอาหารท้องถิ่นแบบเต็มอิ่ม และถ้าอยากเก็บบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ให้ลองเดินเข้าซอยเล็กๆ ที่มีร้านเล็กๆ แต่บรรยากาศอบอุ่น รับรองว่าจะเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดของการมาเยือนซัปโปโร