ตามรอยภาพยนตร์ชื่อดัง “ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะมูฟวี่ 27 ปริศนาปราการ 5 แฉก ”
“ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน: ปริศนาปราการ 5 แฉก” ภาพยนตร์ภาคที่ 27 กับฉากหลังสุดอลังอย่าง เมืองฮาโกดาเตะ เมืองท่องเที่ยวในฮอกไกโดที่มีทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และมุมลึกลับที่ซ่อนปริศนาเอาไว้มากมาย
ครั้งนี้โคนันและผองเพื่อนต้องไขความลับที่เกี่ยวข้องกับ “ปราการรูปดาว” และเรื่องราวที่ผูกโยงกับอดีตอันลึกลับและคุณก็สามารถออกเดินทางตามรอยเส้นทางนั้นได้จริง!
“ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะมูฟวี่ 27 ปริศนาปราการ 5 แฉก ”
หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้ภาพยนตร์ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ครองใจแฟน ๆ มาอย่างยาวนาน ไม่ได้มีแค่ปริศนาที่ชวนติดตามหรือฉากแอ็กชันสุดมันเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่การถักทอเรื่องราวลึกลับเข้ากับสถานที่จริงในประเทศญี่ปุ่นอย่างแนบเนียน จนหลายพื้นที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของแฟนคลับที่อยากเดินตามรอยการไขคดีของโคนันและผองเพื่อน
ในภาคล่าสุดปี 2024 ที่มีชื่อว่า “ปริศนาปราการ 5 แฉก” ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะได้นำเมือง ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เมืองท่าทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด มาใช้เป็นเวทีหลักของเรื่องราว ตั้งแต่ฉากไล่ล่า กลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ไปจนถึงสถานที่สำคัญที่กลายเป็นจุดเชื่อมโยงของปริศนาอันซับซ้อน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสถานที่ต่าง ๆ ในฮาโกดาเตะที่ปรากฏในภาพยนตร์ และทำความเข้าใจว่าเหตุใดเมืองนี้จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นฉากหลังของเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความลับ และร่องรอยแห่งอดีตที่รอการเปิดเผย
1. โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)
กลุ่มอาคารโกดังสไตล์ตะวันตกริมอ่าวฮาโกดาเตะ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1909 ในยุคที่เมืองฮาโกดาเตะเปิดการค้ากับต่างชาติ ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐแดงและยังคงรูปแบบคลาสสิกในแบบโกดังท่าเรือยุคเมจิ ปัจจุบันปรับปรุงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ และแกลเลอรี ภายใต้บรรยากาศย้อนยุคแต่มีชีวิตชีวา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของฮาโกดาเตะ เหมาะแก่การเดินเล่น ถ่ายรูป และสัมผัสกลิ่นอายเมืองท่าญี่ปุ่นในอดีต
2. ศาลาประชาคมฮาโกดาเตะ (Hakodate Community Hall)
สถานที่ที่ถูกใช้เป็นที่จัดการแข่งเคนโด้ ในช่วงตอนต้นของเรื่อง
ศาลาประชาคมฮาโกดาเตะ หรือ Hakodate Kōkaidō เป็นอาคารไม้สองชั้นสไตล์ตะวันตก สร้างขึ้นในปี 1910 หลังเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในเมืองฮาโกดาเตะ อาคารโดดเด่นด้วยสีฟ้าอมเทาและสีเหลืองข้าวโพด ออกแบบหรูหราในแบบตะวันตกผสมญี่ปุ่น ภายในมีห้องโถงใหญ่ที่เคยใช้จัดงานต้อนรับแขกสำคัญ ปัจจุบันเปิดให้เข้าชม เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กทางประวัติศาสตร์ของเมือง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมสำคัญ ของญี่ปุ่น
3. ภูเขาฮาโกดาเตะ(Mount Hakodate)
จุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาฮาโกดาเตะ ก็คือ ภูเขาฮาโกดาเตะ จุดชมวิวกลางคืนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "วิว
ล้านดอลลาร์" ด้วยความงดงามของทิวทัศน์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน จากยอดเขาที่สูง 334 เมตร คุณจะได้เห็นเมืองฮาโกดาเตะสว่างไสวระยิบระยับยามค่ำคืนอยู่ระหว่างทะเลสองฝั่ง คล้ายกับกล่องอัญมณีที่ลอยเด่นอยู่เหนือทะเล ความงามของวิวแห่งนี้ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่โรแมนติกและน่าจดจำที่สุดในญี่ปุ่น
ซึ่งสถานที่นี้ถูกใช้เป็นจุดที่เฮจิตั้งใจจะใช้เป็นสถานที่สารภาพรักกับคาซึฮะอีกด้วย
4. ป้อมดาวโกเรียวคาคุ (Goryokaku)
สถานที่ที่ซ่อนความลับของคดีทั้งหมดเอาไว้ ป้อมดาวโกเรียวคาคุ เป็นป้อมปราการที่มีรูปทรงเป็นดาวห้าแฉก ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ สร้างขึ้นในปี 1857 เพื่อป้องกันการรุกรานจากต่างชาติในช่วงปลายยุคเอโดะ ด้วยการออกแบบที่แปลกใหม่และไม่เหมือนป้อมปราการทั่วไป ป้อมนี้จึงมีความสำคัญทั้งในด้านการทหารและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
ในปัจจุบัน ป้อมโกเรียวคาคุกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิเมื่อดอกซากุระบานเต็มต้น สวนรอบป้อมจะเต็มไปด้วยสีชมพู สร้างความงดงามให้กับพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมี พิพิธภัณฑ์ ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ของป้อมและการต่อสู้ในช่วงปลายยุคซามูไรอีกด้วย
5. หอคอยโกเรียวคาคุ(Goryokaku Tower)
จุดชมวิวสำคัญของเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมโกเรียวคาคุ ป้อมปราการรูปดาวห้าแฉกที่มีชื่อเสียง หอคอยมีความสูงประมาณ 107 เมตร เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์จากมุมสูง ซึ่งสามารถมองเห็นทั้งตัวเมือง ทะเลโดยรอบ และรูปทรงของป้อมที่โดดเด่นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งภายในหอคอยยังมีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติของป้อมโกเรียวคาคุ และเหตุการณ์สำคัญในช่วงปลายยุคเอโดะ หอคอยแห่งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฮาโกดาเตะ
6. ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Toshogu)
ศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นในปี 1864 เพื่ออุทิศแด่โทกูงาวะ อิเอยาสุ ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด เดิมเป็นสถานที่สำคัญในยุคเอโดะ และได้รับสมญานามว่า “นิกโกแห่งเอโซะ” จากความศรัทธาของประชาชน ศาลเจ้าเคยเสียหายจากสงครามและเพลิงไหม้ ก่อนจะถูกย้ายที่ตั้งและบูรณะหลายครั้ง ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ย่านจินกาวะ โดยยังคงรักษาสิ่งก่อสร้างสำคัญในยุคก่อตั้งไว้ เช่น บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ทำจากหินแกรนิต
7. สถานีรถรางยูโนะคาวะ (Yunokawa Station)
สถานีปลายทางของรถรางฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่ในย่านยูโนะคาวะออนเซ็น ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด สถานีนี้มีบรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยโรงแรมเรียวกังและออนเซ็นมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถรางสายหลักจากใจกลางเมืองมายังสถานีนี้ได้อย่างสะดวกสบาย และจากสถานีสามารถเดินต่อไปยังบ่อน้ำพุร้อน สวน หรือศาลเจ้าใกล้เคียงได้โดยง่าย
8. เนินฮาจิมังซากะ (Hachimanzaka Slope)
หนึ่งในเนินเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองฮาโกดาเตะ โดดเด่นด้วยถนนหินปูตรงยาวที่ลาดลงสู่ท่าเรือฮาโกดาเตะ มองเห็นวิวทะเลกว้างสุดสายตา ชื่อของเนินมาจากศาลเจ้าฮาจิมังที่เคยตั้งอยู่ด้านบน เป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยม โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาวที่มีการประดับไฟ บริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยอาคารสไตล์ตะวันตกและบรรยากาศย้อนยุคของย่านโมโตมาจิ เหมาะสำหรับการเดินเล่นและชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองท่าฮาโกดาเตะ
