10 สถานที่ฮอกไกโด ห้ามพลาด!

ฮอกไกโด(Hokkaido) เป็นเกาะขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ เดิมเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าไอนุซึ่งมีวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่าง ก่อนจะเริ่มมีการพัฒนาในยุคเมจิให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันฮอกไกโดมีความโดดเด่นด้านธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ป่าไม้ ทะเลสาบ และแหล่งน้ำพุร้อน อีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในแต่ละฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวที่เหมาะกับกิจกรรมหิมะ ฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้ทัศนียภาพงดงามทั่วทั้งภูมิภาค ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ฮอกไกโดจึงได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและต่างชาติอย่างต่อเนื่อง หากอยากเที่ยวฮอกไกโดให้ครบ จดสถานที่ห้ามพลาดเหล่านี้ไว้เลย!

ซัปโปโร เป็นจุดเริ่มต้นของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อมาถึงฮอกไกโด เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสัน ทั้งสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก อาหารทะเลสดอร่อย และสวนสาธารณะกว้างใหญ่ กลางเมืองคือ สวนโอโดริ ที่กลายเป็นศูนย์กลางของ เทศกาลหิมะซัปโปโร ซึ่งจัดขึ้นทุกต้นเดือนกุมภาพันธ์ ไฮไลต์คือประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรอลังการ นอกจากนี้ยังมีหอทีวีซัปโปโร ตลาดปลานิโจ และย่านซูซูกิโนะที่คึกคักในยามค่ำคืน เที่ยวได้ตลอดปี แต่ช่วงเทศกาลหิมะถือเป็นเวลาทองที่ไม่ควรพลาด

ภูเขาโมอิวะ เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดของซัปโปโร ด้วยวิวพาโนรามา 360 องศาของเมืองที่สามารถชมได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตก เมืองทั้งเมืองจะสว่างไสวด้วยแสงไฟ สร้างบรรยากาศโรแมนติกและน่าประทับใจ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปยังจุดชมวิวด้านบน และหากมาเป็นคู่ ยังสามารถร่วมกิจกรรมสั่นระฆังแห่งคำสัญญาซึ่งเป็นที่นิยมของคู่รักญี่ปุ่นอีกด้วย เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการชมวิว ถ่ายภาพ และเก็บความทรงจำพิเศษในทุกฤดูกาล

โอตารุ เป็นเมืองท่าที่เคยรุ่งเรืองในยุคเมจิ และปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสุดโรแมนติกที่ไม่ไกลจากซัปโปโร จุดเด่นคือ คลองโอตารุ ที่ล้อมรอบด้วยอาคารเก่าสไตล์ยุโรป และมีโคมไฟหินเรียงรายริมคลอง ช่วงฤดูหนาวเดือนธันวาถึงเดือนกุมภาพันธ์ คลองแห่งนี้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะและแสงไฟสลัว กลายเป็นฉากที่งดงามดั่งภาพฝัน นอกจากนี้ยังมีกล่องดนตรี งานแก้วเป่า และขนมหวานโฮมเมดที่ขึ้นชื่อ

หากมาในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมซึ่งเป็นฤดูร้อน ห้ามพลาดการแวะที่ ฟุราโนะ เพื่อชม ฟาร์มโทมิตะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงสดกว้างสุดลูกหูลูกตา ทุ่งแห่งนี้มีกลิ่นหอมชื่นใจและวิวสวยระดับโปสการ์ด นอกจากนี้ยังมีทุ่งดอกไม้อื่น ๆ ผลัดเปลี่ยนกันออกดอกตลอดฤดู ร้านค้าภายในฟาร์มยังมีของฝากอย่างไอศกรีมลาเวนเดอร์และสบู่หอมจากดอกไม้สด

นิเซโกะ คือชื่อที่คนรักกีฬาหิมะรู้จักกันดี เป็นหนึ่งในลานสกีที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยหิมะคุณภาพดี (powder snow) ที่ตกต่อเนื่องในฤดูหนาว (ธ.ค.–มี.ค.) เหมาะสำหรับทั้งนักเล่นสโนว์บอร์ดและสกี ทั้งยังมีรีสอร์ตระดับพรีเมียม ร้านอาหารวิวภูเขา และออนเซ็นที่ให้แช่ในบรรยากาศกลางหิมะ

สวนสัตว์อาซาฮิยามะในเมืองอาซาฮิกาวะ โดดเด่นด้วยการจัดแสดงที่เน้นพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์ ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ ขบวนพาเหรดเพนกวิน ที่จะเดินแถวกันอย่างน่ารักในหิมะช่วงฤดูหนาว (ปลาย ธ.ค.–ก.พ.) เป็นประสบการณ์ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างหลงรัก

ทะเลสาบโทยะ เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติสีเขียวชอุ่มหรือใบไม้เปลี่ยนสีตามฤดู ไฮไลต์คือการล่องเรือชมวิวเกาะกลางน้ำ และแช่ออนเซ็นพร้อมวิวทะเลสาบ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมที่จะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟทุกคืนริมทะเลสาบ สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก

โนโบริเบ็ตสึเป็นเมืองออนเซ็นชื่อดังของฮอกไกโด และมีแหล่งท่องเที่ยวเด่นคือ หุบเขานรกจิโกคุดานิ ที่ควันกำมะถันลอยพวยพุ่งตลอดปี เส้นทางเดินชมธรรมชาติที่นี่ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในอีกโลกหนึ่ง นิยมมาเดินชมพร้อมแวะพักแช่ออนเซ็นหลังจากเดินเขา

บ่อน้ำสีฟ้า (Aoi Ike) ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ มีชื่อเสียงจากสีของน้ำที่ฟ้าสดใสราวกับแต่งเติม แม้จะเกิดจากการสร้างเขื่อน แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมของฮอกไกโด โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน (พ.ค.–ส.ค.) ที่น้ำจะใสและฟ้าที่ส่องสะท้อนยิ่งทำให้ดูเหนือจริง

ตลาดเช้าแห่งนี้ตั้งอยู่ติดสถานีรถไฟฮาโกดาเตะ เต็มไปด้วยแผงขายอาหารทะเลสด ๆ ไม่ว่าจะเป็นขาปู หอยเชลล์ ไข่ปลาแซลมอน หรือข้าวหน้าปลาดิบ (ดงบุริ) ที่สามารถสั่งทำตามใจชอบ เหมาะสำหรับมื้อเช้าที่สดใหม่และคุ้มค่า นักท่องเที่ยวมักแวะมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเลือกของอร่อย