
15
May
ญี่ปุ่น
แนะนำ 8 สถาที่่ท่องเที่ยวอิบารากิ เที่ยวครบ จบในที่่เดียว
จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) อาจไม่ได้โด่งดังเท่าเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ อย่างโตเกียวหรือเกียวโต แต่กลับซ่อนเสน่ห์เฉพาะตัวไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติอันงดงาม ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ สวนดอกไม้เปลี่ยนสีตามฤดูกาล หรือหมู่บ้านเงียบสงบในหุบเขา เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัส “ญี่ปุ่นแท้” ในจังหวะที่ไม่เร่งรีบ
จังหวัดอิบารากิ มีประวัติความเป็นมายาวนาน ย้อนกลับไปในยุคโบราณเคยเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นฮิตาชิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ปัจจุบันยังคงหลงเหลือร่องรอยของศาลเจ้าเก่าแก่ ศิลปะพื้นถิ่น และขนบธรรมเนียมที่สืบต่อกันมาหลายร้อยปี
จุดเด่นของอิบารากิคือการผสมผสานระหว่าง ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ วิถีชีวิตท้องถิ่นแบบดั้งเดิม และความทันสมัยในบางมิติ ที่ลงตัวอย่างน่าประหลาด ที่นี่มีทั้งทะเล ภูเขา ทะเลสาบ และทุ่งดอกไม้ที่ผลัดเปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล เหมาะสำหรับนักเดินทางที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย มาสัมผัสญี่ปุ่นอีกมุมที่เรียบง่ายแต่น่าประทับใจ
และนี่คือสถานที่ทีเราอยากแนะนำ แล้วคุณอาจจะหลงรักอิบารากิโดยไม่รู้ตัว…
1. สวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park)
สวนดอกไม้ริมชายฝั่งทะเลแปซิฟิกในเมืองฮิตาชินากะ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ โดยเฉพาะทุ่งดอก เนโมฟีลา สีฟ้าอ่อนนับล้านต้นที่บานพร้อมกันทั่วเนินเขาในฤดูใบไม้ผลิ จนดูคล้ายทะเลสีฟ้า ท่ามกลางท้องฟ้าใสในฤดูใบไม้ร่วง เนินเขาเดียวกันจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดจากต้น โคเคีย ที่กลมและน่ารัก เป็นความงดงามแบบญี่ปุ่นที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ช่วงที่แนะนำจะเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม เพราะเนินเขาจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกเนโมฟีลาสีฟ้าอ่อนราวกับทะเลบนบก ส่วนในเดือนตุลาคม ต้นโคเคียจะเปลี่ยนสีจากเขียวสดเป็นแดงสดทั่วทั้งเนิน เป็นภาพที่แปลกตาและถ่ายรูปออกมาได้สวยงามไม่แพ้กัน


2. น้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls)

3. สวนไคระคุเอ็น (Kairakuen Garden)
สวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ในเมืองมิโตะ หนึ่งในสามสวนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โด่งดังเป็นพิเศษในช่วงดอกบ๊วยบาน เพราะมีต้นบ๊วยมากกว่า 3,000 ต้น ซึ่งจะเริ่มผลิดอกช่วงปลายฤดูหนาวจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศสงบของสวน ตัดกับกลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกบ๊วย และภูมิทัศน์ที่เรียบง่าย สะท้อนความงามของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่แท้จริง ช่วงเวลาที่สวยงามและมีชีวิตชีวามากที่สุดของสวนคะอิระคุเอ็นคือปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบ๊วยกว่า 3,000 ต้นผลิบานพร้อมกันทั่วทั้งสวน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกบ๊วยลอยคลุ้งในอากาศ ผสานกับทัศนียภาพของศาลา สระน้ำ และป่ารอบข้าง ทำให้ที่นี่ดูสงบและละมุนละไมอย่างยิ่ง

4. อควาเวิลด์ อิบารากิ (Aqua World Ibaraki)

5. อาร์ตทาวเวอร์มิโตะ (Art Tower Mito)

6. ศาลเจ้าอิโซซากิ & ชายหาดโอะอะไร (Isosaki Shrine & Oarai Coast)

7. ศาลเจ้าคาชิมะ (Kashima Jingu Shrine)

8. ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ (Kasumigaura Lake)

ของขึ้นชื่อของจังหวัดอิบารากิ
นัตโตะมิโตะ
ถั่วหมักรสชาติเข้มที่แม้หลายคนจะกลัวกลิ่นแรง แต่ถือเป็นอาหารสุขภาพที่คนญี่ปุ่นนิยมมาก อิบารากิเป็นแหล่งผลิตนัตโตะคุณภาพสูงอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยเฉพาะในเมืองมิโตะ

ปลาอังโกะ
ปลาทะเลน้ำลึกที่นิยมรับประทานในฤดูหนาว นิยมนำมาทำ “อังโกะนาเบะ” หรือหม้อไฟปลาอังโกะรสเข้มข้นที่ช่วยให้อบอุ่นในอากาศเย็น
เมลอนอิบารากิ
ผลไม้รสหวานฉ่ำที่ปลูกในเรือนกระจกภายในจังหวัด มีทั้งแบบผลเขียวและผลส้ม เป็นของฝากยอดนิยมที่มักพบในรูปแบบเมลอนสดหรือของหวานแปรรูป

โฮชิอิโมะ
ของขึ้นชื่อแห่งอิบารากิ มันหวานญี่ปุ่นที่นำไปอบแห้งจนได้เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม รสหวานธรรมชาติ หอมละมุน เหมาะเป็นของว่างเพื่อสุขภาพหรือของฝากที่ใครได้ลองก็หลงรัก

เนื้อฮิตาจิ
สุดยอดวากิวจากวัวพันธุ์ญี่ปุ่นดำที่เลี้ยงในอิบารากิ โดดเด่นด้วยลายไขมันสวยละลายในปาก กลิ่นหอมเฉพาะตัว และรสชาติละเมียดละไมระดับพรีเมียม เหมาะทั้งยากินิกุ ชาบู หรือสเต๊กสุดหรู
